ภาวะตลาดตราสารหนี้ไทย

23 พฤษภาคม - 27 พฤษภาคม 2559

ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมามีรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของไทยออกมาไม่ดี โดยกระทรวงพาณิชย์รายงานการส่งออกในเดือนเมษายนมีมูลค่า 15,545 ล้านเหรียญสหรัฐ หดตัว 8.0% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยปัจจัยหลักมาจากราคาสินค้าเกษตรในตลาดโลกที่ลดลง การหดตัวของการส่งออกรถยนต์ ชิ้นส่วนประกอบและเครื่องคอมพิวเตอร์ รวมทั้งเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าที่ชะลอตัว ส่งผลให้ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมามูลค่าการส่งออกหดตัว 1.24% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า ขณะที่การนำเข้าของไทยในเดือนเมษายนมีมูลค่า 14,824 ล้านเหรียญสหรัฐ หดตัว 14.92% ส่งผลให้ไทยเกินดุลการค้าระหว่างประเทศมูลค่า 721 ล้านเหรียญสหรัฐ ในขณะที่ตลาดพันธบัตรของไทยไม่ได้สนองตอบต่อข่าวนี้มากนัก หลังจากในสัปดาห์ก่อนหน้าที่อัตราผลตอบแทนปรับตัวขึ้นมาแรง ก็เริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามาจากนักลงทุนสถาบันบ้างโดยเฉพาะในช่วงอายุ 5-10 ปี ทำให้อัตราผลตอบแทนทรงตัวถึงปรับลงเล็กน้อย นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในพันธบัตรอายุมากกว่า 1 ปี ประมาณ 1 พันล้านบาท และซื้อสุทธิในพันธบัตรอายุน้อยกว่า 1 ปี จำนวน 19.5 พันล้านบาท

ทางด้านการประมูลพันธบัตรรัฐบาลระยะสั้น อัตราผลตอบแทนเฉลี่ยปรับขึ้นทุกประเภทโดยรวม 4-5 bps และรุ่นอายุ 6 เดือน มีปริมาณเสนอซื้อน้อยกว่าปริมาณเสนอขาย โดยตั๋วเงินคลังอายุ 28 วัน อัตราผลตอบแทนเฉลี่ยอยู่ที่ 1.39464% ต่อปี ส่วนพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยอายุ 14 วัน 91 วัน และ 182 วัน อัตราผลตอบแทนเฉลี่ยอยู่ที่ 1.43667%, 1.42501% และ 1.46330% ต่อปี ตามลำดับ นอกจากนี้ยังมีการประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยอายุประมาณ 3 ปีซึ่งมีปริมาณเสนอซื้อน้อยกว่าปริมาณเสนอขายเช่นกันและอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยอยู่ที่ 1.6760%

Debt-23-27-may